ตำแหน่งที่ดาวที่ส่งอิทธิพลถึงกัน มีดังนี้

ดาวกุม อิทธิพลที่ได้รับ 100%
ดาวโยคหน้า อิทธิพลที่ได้รับ 65%
ดาวโยคหลัง อิทธิพลที่ได้รับ 65%
ดาวตรีโกณ อิทธิพลที่ได้รับ 75%
ดาวฉาก อิทธิพลที่ได้รับ 100%
ดาวเล็ง อิทธิพลที่ได้รับ 100% (ดาวเล็ง เป็น 1 ในตำแหน่งดาวฉาก)
เกณฑ์พิเศษ (อังคาร,เสาร์,พฤหัส) อิทธิพลที่ได้รับ 100%

ดาวบาปเคราะห์ ได้แก่ ดาว 1 3 7 8 9 0
ดาวศุภเคราะห์ ได้แก่ 2 4 5 6

เรือนทุสถาน ได้แก่ อริ มรณะ วินาส
เรือนมงคล ที่เหลือ 9 เรือน (ตนุ กดุมภะ ....ลาภะ)

เรือนทุสถาน อริจะร้ายกว่ามรณะ มรณะร้ายกว่าวินาส ซึ่งวินาสไม่ได้เสียร้ายอย่างเดียวแต่ยังหมายถึงสงบ เรียบๆ แผ่วบาง

----------------------------

โดยปกติแล้วดาวทุกดวงย่อมมีอิทธิพลต่อเจ้าชะตา จะมากน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพและตำแหน่ง ซึ่งเกณฑ์ต่างๆ จะมีอิทธิพลที่ระดับต่างกัน

ตำแหน่งกุม ฉาก เล็ง เกณฑ์พิเศษ (พิจารณาจากลัคนา) จะมีอิทธิพลต่อเจ้าชะตามาอันดับ 1 เสมอ หากไม่มีดาวอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว จะพิจาณาที่ดาวตรีโกณฑ์ต่อไป แต่หากยังคงไม่มีดาวตรีโกณฑ์ ก็ให้พิจารณาดาวโยคหน้า-หลัง หากยังไม่มีดาวโยคหน้า-หลังอีก ให้พิจารณาตำแหน่งศูนย์พาหะ หากยังไม่มีอีกให้เปลี่ยนจากลัคนามาเป็นจันทร์แทน (จริงๆ โอกาสเป็นไปได้ยาก) เราจะเรียกดาวที่ส่งอิทธิพลถึงลัคนาหรือดาวมีบทบาทต่อลัคนามากที่สุดว่า ดาวชูโรง

ลองพิจาณาตัวอย่างที่เคยแสดงไว้ในตอน ที่ 7

ตัวอย่างที่ 9.1
จาก Link
http://www.payakorn.com/wb_answer.php?q_id=992

ภาพประกอบดวง

พิจารณาที่ลัคนา (พิจารณาเฉพาะดาว 1 2 3 4 5 6 7 0 ส่วน 8 และ 9 ไม่ต้องพิจารณา)

ดาวชูโรงของเจ้าชะตา คือ ดาว 0 ดาว 7 (เป็นดาวกุม และ ฉาก ตามลำดับ ซึ่งให้ส่งอิทธิพลถึงลัคนเท่ากัน) เราได้ดาวชูโรงแล้วหยุดเท่านี้ก่อนไม่ต้องมองดาวอื่น
พิจารณาดาว 7 เป็นดาวเจ้าเรือน พันธุ ปุตตะ ดาว 7 มีคุณภาพ 36.73 ดาว 7 เป็นดาวบาปเคราะห์
พิจารณาดาว 0 เป็นดาวบาปเคราะห์

คำพยากรณ์

ดาว 7 มีคุณภาพต่ำ ซึ่งส่งผลเสียต่อเจ้าชะตาในความหมายที่เสียของดาว 7 (แต่หากดาว 7 มีคุณภาพสูงก็จะเอาความดีของดาว 7 มาพยากรณ์)
ดาว 7 ในฐานะเจ้าเรือนพันธุ และ ปุตตะ
ชีวิตมักจะคลุกคลีกับเรื่องของพันธุ และ ปุตตะ ซึ่งคลุกคลีแบบไหนต้องดูคุณภาพเรือนพันธุ และ เรือนปุตตะ ถ้าเรือนมีคุณภาพดี (สูงกว่า 58 ก็พยากรณ์ดี ถ้าต่ำกว่า 58 ก็พยากรณ์เสีย จะมากน้อยอย่างไร ให้เป็นไปตามตัวเลขคุณภาพเรือน)

สรุปคำพยากรณ์ สำหรับ ดาว 7 ชูโรง เจ้าชะตามักมีเรื่องให้คิดมาก เสียสุขภาพจิต จิตใจย่ำแย่ (คุณภาพดาว 7 ต่ำ หยิบเอาส่วนเสียของดาว 7 มาพยากรณ์)
ชีวิตมักคลุกคลีในเรื่องของพันธุและปุตตะ (ในฐานะดาว 7 เจ้าเรือนพันธุ-ปุตตะ)
ซึ่งเจ้าชะตาต้องมีภาวะของเรือนพันธุและปุตตะ อย่างไม่ค่อยดีนัก (เรือนพันธุและปุตตะมีคุณภาพต่ำ ดูจากคุณภาพเรือนในพื้นชะตา)
(ชีวิตที่มีดาวชูโรงเป็นดาวบาปเคราะห์ และ มีคุณภาพต่ำ ย่อมทำให้เจ้าชะตาลำบาก)

ดาว 0 ในฐานะดาวบาปเคราะห์ให้โทษ (อาเพศ) ให้กับเจ้าชะตา (ความหมายของดาว 0 ยังไม่แน่ชัดนัก แต่ความเป็นดาวบาปเคราะห์นี้ให้ผลชัดเจน)

สรุปเนื้อหาที่กลางบทก่อน เพื่อตัวอย่างต่อไปจะได้จับทิศทางได้เร็วขึ้น

1. หาดาวชูโรงของเจ้าชะตาว่ามีดาวอะไรบ้าง โดยอาศัยเกณฑ์ต่างๆ (กุม เล็ง ... ) โดยพิจารณาตามแรงส่งอิทธิพลเป็นหลักตามที่อธิบายไว้ข้างต้น
2. เมื่อได้ดาวชูโรงแล้ว ตรวจสอบ คุณภาพดาวชูโรงว่ามากน้อย เสียหรือดี เป็นเจ้าเรือนอะไร คุณภาพเรือนเป็นอย่างไร เป็นบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ แล้วพยากรณ์ตามเนื้อหาและคุณภาพของดาวชูโรง
3. ดาวชูโรงเป็นดาวที่ให้ผลกับเจ้าชะตาอยู่บ่อยๆ ซึ่งประมาณว่าเห็นอาการบ่อย (เลยเรียกว่าดาวชูโรง หรือออกโรงบ่อย)
4. หากดาวชูโรง มีหลายดวง ก็จะผลัดกันทำหน้าตามเหตุปัจจัยที่เอื้ออำนวย




ตัวอย่างที่ 9.2
ดวงที่ 1
จาก Link
http://www.payakorn.com/wb_answer.php?q_id=1150


เกิด 11 ธ.ค.2509 เวลา 09:56 น. กทม ปีมะเมีย วันอาทิตย์

ภาพประกอบดวง

กวาดตามองหาดาวกุม เล็ง ฉาก ก่อน พบว่า มี ดาว 5 ดวงเดียว ( ดาว 8 และ 9 ไม่ต้องพิจารณา)
ควรหาดาวชูโรงเพิ่มสักดวง (ดวงเดียวน้อยเกินไป อย่างน้อยก็ควรมี 2 ดวง) กวาดตามองหาดาวตรีโกณต่อไป พบว่ามีดาว 3 ที่ตรีโกณฑ์กับลัคนา

สรุปได้ดาวชูโรง คือ 5 และ 3 (5 เด่นสุด ดาว 3 รองๆ เพราะตรีโกณฑ์ พิจารณาจากเกณฑ์ที่ส่งอิทธิพลถึงลัคนา ไม่ใช่คุณภาพดาว)

วิเคราะห์ ดาว 5 มีคุณภาพสูง (91.41) ดาว 5 คุณธรรม ความยับยั้งชั่งใจ ความเป็นผู้ใหญ่รู้จักคิด
ในฐานนะดาวเจ้าเรือนสหัชชะ และ วินาส (ชีวิตพัวพันให้เรื่องข้องกับสหัชชะและวินาส แต่เจ้าเรือนมงคลจะให้อิทธิพลแรงกว่า)
วิเคราะห์ ดาว 3 มีคุณภาพสูง (92.18 )ดาว 3 ความขยัน กล้าหาญ

สรุป นำส่วนดีของดาว 5 และ 3 มาพยากรณ์ให้กับเจ้าชะตาไปในทางที่ดี (ดาว 5 และ 3 มีคุณภาพสูง)

การพิจารณาว่าจะหาดาวชูโรงกี่ดวง นั้นให้พิจารณาตามความเหมาะสม เช่น ดาว 5 กุมลัคน์เพียงดวงเดียว ไม่มีดาว ตรีโกณฑ์ ไม่มีดาวโยค ไม่มีดาวศูนย์พาหะ เราก็จำเป็นต้องใช้ดาว 5 เพียงดวงเดียว
หรือ ดาว 5 เล็งลัคนา ดาว 1 2 3 4 6 7 ทั้ง 6 ดวง โยคหน้าโยคหลัง เราก็อาจไม่ใช้ดาวทั้ง 6 ดวง แต่ใช้ดาว 5 เพียงดวงเดียวก็ได้

ดวง 2
ส่วนดวงที่ 2 นี้ เกิด 15 ธ.ค.2501 เวลา 02:18 วันจันทร์ ปีจอ (จาก Link เดิม)

ภาพประกอบดวง

ดาวชูโรงคือ ดาว 5 ดาว 3 ดาว 0 และ ดาว 2 (กุม ฉาก เล็ง) (ไม่ต้องไปมองตรีโกณฑ์ต่อ เพราะดาวชูโรง 4 ดวงก็พยากรณ์ได้มากพอ )
ดาว 5 เป็นดาวศุภเคราะห์ คุณภาพสูง (80.33) เป็นเจ้าเรือนมงคล (สหัชชะ อริ )คุ้มครองเจ้าชะตา (ถ้าดาวเป็นเจ้าเรือน 2 เรือน มงคลและอมงคล ผลแห่งเจ้าเรือนมงคลนั้นมีมากกว่าการเป็นเจ้าเรือนอมงคล)
ดาว 3 เป็นดาวบาปเคราะห์ และมีคุณภาพสูง (97.02) เป็นเจ้าเรือนมงคล (กดุมภะ-ปัตนิ) ย่อมให้ผลดีต่อเจ้าชะตา (คุณภาพสูง)
ดาว 2 เป็นดาวศุภเคราะห์ คุณภาพต่ำกว่าปกติเล็กน้อย (48.13) เป็นเจ้าเรือนมงคล ให้ผลดีกับเจ้าชะตาไม่มากนัก
ดาว 0 เป็นดาวบาปเคราะห์ คุณภาพสูง ให้โทษต่อเจ้าชะตา

อ่านประวัติจาก Link เมื่อวิเคราะห์มาถึงจุดนี้ น่าแปลกใจ ดาว 5 เป็นดาวชูโรง และดาว 3 2 0 ไม่น่าจะทำให้ดาว 5 เสียได้ขนาดนี้ ไม่มีโอกาสได้ทราบรายละเอียดเจ้าชะตาเพื่อที่จะตรวจตำแหน่งลัคนาให้แน่ชัด (ถ้าลัคนาอยู่ราศีกันย์ จะได้ดาวชูโรงชุดใหม่ คือ 6 7 ซึ่งสอดคล้องกับประวัติใน Link เลยทีเดียว)



ตัวอย่างที่ 9.3
จาก Link
http://www.payakorn.com/webboard_ans.php?q_id=35684

เกิดที่ชุมพร จันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2519 08.30

ภาพประกอบดวง

ดาวชูโรง คือ ดาว 7 ดาว 5 ดาว 0
ดาว 7 ดาวบาปเคราะห์คุณภาพต่ำ (เสียพอประมาณ) เจ้าเรือนปัตนิ และ มรณะ (ความเป็นเจ้าเรือนมงคลยังคงเด่นกว่าเจ้าเรือนอมงคลเสมอ) วิเคราะห์ดาว 7 ให้โทษกับเจ้าชะตาในฐานะที่เป็นดาวบาปเคราะห์และมีคุณภาพต่ำ ความเป็นเจ้าเรือนปัตนิยังคงช่วยเหลือให้พอมีคู่ครองมีร่วมทุกข์ด้วยกัน
ดาว 5 ดาวศุภเคราะห์ คุณภาพปกติธรรมดาเป็นเจ้าเรือนอริ-ศุภะ ความเป็นศุภะยังคงเหนือกว่าความเป็นอริ ยังคงพอคุ้มครองรักษาเจ้าชะตาได้
ดาว 0 ดาวบาปเคราะห์ ส่งผลเสียกับเจ้าชะตา เสียแบบไหน ก็คือ ดาว 0 สถิตเรือนไหนเกิดอาเพศเรือนนั้น (กล่าวไว้แล้วในตอนที่ 8 )

วิเคราะห์เจ้าชะตาคนนี้ ดาว 7 คุณภาพต่ำย่อมส่งผลเสียต่อเจ้าชะตา มีดาว 0 ให้โทษด้วย ยังคงมีดาว 5 ที่ให้ผลคุ้มครองอยู่บ้าง (เส้นทางชีวิตที่ร้อนจ้า ยังคงมีร่มเงาให้พักพิง)


ความรู้เบ็ดเตล็ดสำหรับตอนที่ 9
1. หากดาวชูโรงเป็นดาวบาปเคราะห์ ย่อมให้วิบากกรรมในอดีตส่งผลกับเจ้าชะตา (กรรมเก่า)
2. หากดาวชูโรงเป็นดาวศุภเคราะห์ ย่อมให้บุญกุศลในอดีตส่งผลกับเจ้าชะตา (บุญเก่า)
3. ดาวชูโรง จะแสดงผลบ่อยๆ ในดวงชะตา (แสดงนำ เหมือนละคร พระเอกนางเอก)
4. หากมีดาวชูโรงหลายดวง จะพลัดกันแสดงผลหรือเกิดขึ้นพร้อมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
5. ดาว 8 9 ไม่ต้องนำมาเป็นดาวชูโรงซึ่งอยู่ในฐานะจะเป็นดาวชูโรงไม่ได้
6. ดาว 0 ชูโรงในฐานะดาวบาปเคราะห์ ส่วนความหมายของดาว 0 คืออาเพศ
7. ดาวบาปเคราะห์และมีคุณภาพต่ำ มีโทษมากที่สุด
8. ดาวศุภเคราะห์และมีคุณภาพต่ำ มีโทษพอสมควร ก็คือส่วนเสียของดาวนั่นเอง (รองจากข้อ 7)
9. ดาวบาปเคราะห์และมีคุณภาพสูง ให้โทษในฐานะดาวบาปเคราะห์ แต่ให้คุณในฐานนะดาวที่มีคุณภาพสูง (ได้คุณอย่างไรก็ให้พยากรณ์ไปตามลักษณะดีของดาว)
10. ดาวศุภเคราะห์และมีคุณภาพสูง ให้คุณมาก
11. ดาว 5 เป็นดาวชูโรงและมีคุณภาพสูง จะให้คุณกับเจ้าชะตามาก (คุณภาพน้อยๆ ก็ยังคงให้คุณอยู่ แต่ก็เป็นไปตามตัวเลข)
12. ดาว 7 เป็นดาวชูโรงบาปเคราะห์กรรมเก่าจะให้ผล (ไม่ว่าคุณภาพต่ำหรือสูงก็ตาม)
13. ชะตาใดมีดาวชูโรงเป็นดาวศุภเคราะห์ทุกดวงและมี่คุณภาพสูงย่อมเป็นชะตาที่ดี
14. ชะตาใดมีดาวชูโรงเป็นดาวบาปเคราะห์ทุกดวงและมีคุณภาพต่ำย่อมเป็นชะตาที่ลำบาก
15. หากดาวชูโรงเป็นดาวบาปเคราะห์และศุภเคราะห์ก็ให้วิเคราะห์ไปตามลักษณะดาว และผสมผสานกันตามสัดส่วน
16. ดาวชูโรงเป็นเจ้าเรือน 2 เรือน เมื่อเป็นเจ้าเรือนมงคลและเป็นเจ้าเรือนอมงคล (อริ มรณะ วินาส) ดาวจะแสดงผลความเป็นมงคลมากกว่าอมงคล


ที่มา http://www.palachote.com